6 ข้อที่ต้องรู้สำหรับมือใหม่ “เปิดร้านกาแฟแบบคาเฟ่” ยังไงให้เหมือนมือโปร

 

อยากมีร้านกาแฟเป็นของตัวเองสักที่ จัดแต่งร้านในสไตล์แบบที่ชอบ เพื่อรองรับสำหรับกลุ่มลูกค้าอีกระดับที่ต้องการใช้สถานที่ในการนัดพบ คุยงาน หรือรีแล็กซ์ แต่จะวิธีการอย่างไรที่จะทำให้เราเปิดร้านได้อย่างมือโปร และรู้จริง..

  ความจริงที่ต้องรู้สำหรับ “ร้านกาแฟแบบคาเฟ่” คือจะมีเรื่องที่ยุ่งยาก และค่าใช้จ่ายที่มากกว่าร้านกาแฟแฟรนไชส์ทั่วไป มีอะไรบ้างมาดูกันเลย!

ทำเลที่ตั้ง – เลือกทำเลจากแหล่งที่ชอบ ผู้คนสามารถเข้า-ออกได้ง่าย ใกล้ที่จอดรถ หรือติดกับทางเท้า เลือกไว้หลายๆ ที่ และไปดูที่ตั้งเหล่านั้นด้วยตัวเอง เพื่อนำมาพิจารณาถึงความเหมาะสม

ผู้รับเหมาไว้ใจได้ – การเปิดร้านกาแฟจำเป็นจะต้องตกแต่งทั้งภายในและภายนอก โดยเลือกทีมที่น่าไว้ใจ ไปตรวจงานด้วยตัวเองบ่อยๆ หรือถ้าใครจะเปิดขนาดเล็กลงมาหน่อยก็ใช้บ้านน็อคดาวน์ก็ได้ เหมาะสำหรับการเปิดร้านกาแฟเช่นกัน

การตกแต่ง – เมื่อเตรียมสถานที่เรียบร้อย คือการหาเฟอร์นิเจอร์สำหรับตกแต่งร้าน ออกแบบสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีแนวทางที่สอดคล้องกัน เพื่อให้ได้ร้านที่ดูดี น่านั่ง น่าเข้ามาใช้บริการ

ค้นหาแหล่งวัตถุดิบและอุปกรณ์ – สำหรับอุปกรณ์สามารถเลือกได้ตามร้านค้าหรือแหล่งช้อปออนไลน์ แต่วัตถุดิบควรเลือกหาจากแหล่งชั้นดี มีที่มา และได้คุณภาพมากที่สุด

พนักงาน – ร้านกาแฟที่เปิดแบบคาเฟ่ต้องอาศัยพนักงานเป็นแรงงานสำคัญในร้าน ต้องมีทั้งคนชงกาแฟ คนเสิร์ฟ พนักงานต้อนรับ หรือทั้งหมดอาจเป็นคนเดียวกันที่ต้องทำทุกหน้าที่ จะมากน้อยขึ้นอยู่กับขนาดของร้าน แต่ไม่ควรต่ำกว่า 2 คน ค่าแรงสำหรับพนักงานไม่ควรต่ำกว่า 9,000 บาท

ดำเนินการเรื่องเสียภาษีร้านกาแฟ – สำหรับร้านกาแฟแบบคาเฟ่ จำเป็นจะต้องทำเรื่องดำเนิกการเกี่ยวกับภาษี ดังนี้.. – ใบอนุญาติจำหน่าย สะสมอาหารเจ้าพนักงานท้องถิ่น เขต/อบต. 1000 บาท/ปี – ใบจดทะเบียนพาณิชย์ 50 บาท ตลอดชีพ – ใบประกันสังคม จดทะเบียนไม่เสียค่าใช้จ่ายหากมีลูกจ้างจ่ายตามอัตราเงินเดือน 5% ของลูกจ้าง 5% นายจ้างขั้นต่ำ 1,650 บาทต่อคน – ภงด 94 เสียกลางปี – ภงด 90 ปลายปี – ใบอนุญาติจำหน่ายสุรา (ถ้ามี) กาแฟ + แอลกอฮอล์ 30 บาทต่อปี – ภาษีโรงเรือนที่ดินกิจการร้านค้าตารางเมตรละ 100 บาท โดยประมาณ+ภาษีป้าย แนะนำให้ใช้เป็นป้ายภาษาไทย (ป้ายถาวร) หากป้ายเป็นภาษาอังกฤษควรใช้ป้ายผ้าหรือผ้าใบปรินท์เป็นธง เพราะเรทป้ายภาษาอังกฤษโดนภาษีเยอะกว่าป้ายภาษาไทยค่อนข้างมาก และต้องเสียทุกปี  

ถ้าคุณพร้อมที่จะเริ่มทำสิ่งเหล่านี้ พร้อมเปิดร้านกาแฟแบบคาเฟ่ในสไตล์ที่คุณชอบ มันคุ้มค่าที่จะเหนื่อยและลงทุน แต่สิ่งที่ได้มาคือลูกค้าอีกระดับ ที่พร้อมยอมจ่ายเพื่อแลกกับรสชาติของกาแฟที่แท้จริง และที่นั่งทำงานของพวกเค้านั่นเอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Phone
Line
Jaisu สวัสดีครับ มีคำถามแจ้งใจได้เลยนะครับ 😄